สารบัญ
🎯 ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร?
ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล การเข้าใจเรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องรู้ เพราะไม่เพียงแต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการวางแผนทางการเงินและการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากรายได้หรือกำไรสุทธิของนิติบุคคลต่างๆ ที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร การเก็บภาษีนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐ แต่ยังเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเป็นธรรมในสังคม

เมื่อพูดถึง ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร เราต้องเข้าใจว่าการคิดภาษีนี้จะแตกต่างจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะคิดจากกำไรสุทธิของบริษัทหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมเหตุสมผลแล้ว ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนการลงทุนและการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🎯 จุดเด่นของระบบภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย
- คิดจากกำไรสุทธิ: ไม่ใช่รายได้รวม ทำให้ยุติธรรมกับธุรกิจ
- มีการยกเว้นและลดหย่อน: สำหรับการลงทุนและกิจกรรมที่ส่งเสริม
- สามารถวางแผนภาษี: เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างถูกกฎหมาย
- มีความชัดเจน: ในกำหนดเวลาและขั้นตอนการยื่นแบบ
- รองรับธุรกิจทุกขนาด: ตั้งแต่ SME ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่
ความสำคัญของการทำความเข้าใจภาษีเงินได้นิติบุคคลในยุค 2025
ในปี 2025 ธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งด้านเทคโนโลยี การแข่งขัน และกฎระเบียบใหม่ๆ การเข้าใจเรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร จึงกลายเป็นความจำเป็นมากกว่าที่เคย เพราะ:
- การปฏิบัติตามกฎหมาย: หลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือดำเนินคดี
- การวางแผนทางการเงิน: คาดการณ์ต้นทุนและกำไรได้แม่นยำ
- การสร้างความน่าเชื่อถือ: ต่อนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ
- การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน: ผ่านการประหยัดต้นทุน
- การเตรียมความพร้อม: สำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต
ที่ MoAccount เราเข้าใจดีว่าการจัดการเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคลอาจเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับผู้ประกอบการหลายท่าน นั่นคือเหตุผลที่เราได้รวบรวมความรู้และประสบการณ์มากกว่า 15 ปี เพื่อสร้างบริการที่ครบครันและเข้าใจง่าย ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจ ขณะที่เราดูแลเรื่องบัญชีและภาษีให้คุณ
💡 ต้องการคำปรึกษาเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคล?
ทีมผู้เชี่ยวชาญของ MoAccount พร้อมให้คำปรึกษาฟรี และช่วยวางแผนภาษีให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
ขอคำปรึกษาฟรี📚 เขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้นิติบุคคลบรรยายเชิงลึก
ในส่วนนี้ เราจะพาคุณดำดิ่งลงไปสู่รายละเอียดของ ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร อย่างครบถ้วนและเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมากกว่า 15 ปี

2.1 ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่
เมื่อเข้าใจแล้วว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร สิ่งต่อไปที่สำคัญคือการรู้ว่า ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่ ใครบ้าง การเข้าใจในเรื่องนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถวางแผนและเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม
🏢 บริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเภทแรกและที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดคือบริษัทจำกัดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น:
- บริษัทจำกัดขนาดเล็ก: ทุนจดทะเบียน 1-5 ล้านบาท ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ
- บริษัทจำกัดขนาดกลาง: ที่มีรายได้ 20-300 ล้านบาทต่อปี
- บริษัทมหาชนจำกัด: ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- บริษัทย่อย: และบริษัทในเครือของบริษัทขนาดใหญ่
- บริษัทต่างชาติ: ที่มีสำนักงานหรือดำเนินกิจการในประเทศไทย
🤝 ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
กลุ่มที่สองของ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งประกอบด้วย:
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด: ที่หุ้นส่วนมีความรับผิดชอบจำกัด
- ห้างหุ้นส่วนมหาชน: ที่สามารถเสนอขายหุ้นส่วนต่อประชาชน
- ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล: ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก
⚠️ ข้อสำคัญที่ต้องจำ
ห้างหุ้นส่วนสามัญธรรมดาที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่มีหน้าที่ เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่หุ้นส่วนแต่ละคนต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทน
ประเภทนิติบุคคล | ต้องเสียภาษี | อัตราภาษี | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
บริษัทจำกัด | ✅ ใช่ | 20% | อัตรามาตรฐาน |
บริษัทมหาชนจำกัด | ✅ ใช่ | 20% | อัตรามาตรฐาน |
ห้างหุ้นส่วนจำกัด | ✅ ใช่ | 20% | อัตรามาตรฐาน |
สหกรณ์ | ✅ ใช่ | 20% | ยกเว้นบางประเภท |
บริษัทใหม่ | ✅ ใช่ | 15% | 3 ปีแรก (มีเงื่อนไข) |
ห้างหุ้นส่วนสามัญ | ❌ ไม่ใช่ | - | เสียภาษีรายบุคคล |
🏛️ สหกรณ์และองค์กรอื่นๆ
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ยังรวมถึงองค์กรประเภทอื่นๆ ที่มีรายได้จากการประกอบกิจการ:
- สหกรณ์การเกษตร: ที่มีรายได้จากการขายผลผลิตหรือบริการ
- สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน: ที่ให้บริการทางการเงินแก่สมาชิก
- สหกรณ์บริโภค: ที่ดำเนินกิจการค้าปลีก
- มูลนิธิและสมาคม: ที่มีรายได้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์หลัก
- นิติบุคคลต่างชาติ: ที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
🎯 กรณีพิเศษที่ต้องระวัง
- บริษัทที่ยังไม่ได้ดำเนินการ: แม้ไม่มีรายได้ ก็ยังต้องยื่นแบบแสดงรายการ
- บริษัทที่ขาดทุน: ไม่ต้องจ่ายภาษี แต่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ
- บริษัทที่เลิกกิจการ: ต้องยื่นแบบแสดงรายการสุดท้าย
- บริษัทที่ถูกยุบ: ต้องชำระภาษีที่ค้างชำระทั้งหมดก่อนยุบ

2.2 อัตราภาษีและการคำนวณ
หลังจากเข้าใจแล้วว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร และใครมีหน้าที่ต้องเสียภาษี สิ่งต่อไปที่สำคัญคือการเข้าใจอัตราภาษีและวิธีการคำนวณ เพื่อให้สามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ
💰 อัตราภาษีมาตรฐาน (20%)
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลมาตรฐานในประเทศไทยอยู่ที่ 20% ของกำไรสุทธิทางภาษี ซึ่งใช้กับนิติบุคคลส่วนใหญ่ อัตรานี้ถือว่าแข่งขันได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
🌱 อัตราภาษีพิเศษสำหรับบริษัทใหม่ (15%)
บริษัทที่เพิ่งจดทะเบียนใหม่สามารถใช้อัตราภาษี 15% ได้เป็นเวลา 3 ปี หากเป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้:
- ทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท
- รายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อปีการเงิน
- ไม่เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเฉพาะด้าน (เช่น ธนาคาร, ประกันภัย, หลักทรัพย์)
- ไม่เป็นบริษัทที่แยกประเภทธุรกิจมาจากบริษัทเดิม
- ดำเนินกิจการจริงและมีพนักงานอย่างน้อย 1 คน
📊 หลักการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
การคำนวณ ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ กระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการบัญชีและกฎหมายภาษีอากร ขั้นตอนหลักมีดังนี้:
- คำนวณกำไรสุทธิทางบัญชี: จากงบกำไรขาดทุน
- ปรับปรุงรายการทางภาษี: เพิ่มหรือลดตามหลักเกณฑ์ภาษี
- คำนวณภาษีที่ต้องจ่าย: กำไรสุทธิทางภาษี × อัตราภาษี
- หักภาษีที่จ่ายไปแล้ว: ภาษีหักณ ที่จ่าย และภาษีจ่ายล่วงหน้า
- คำนวณภาษีสุทธิ: ที่ต้องจ่ายเพิ่มหรือขอคืน
📈 สูตรการคำนวณพื้นฐาน
กำไรสุทธิทางภาษี = กำไรสุทธิทางบัญชี + รายการที่ไม่สามารถหักได้ - รายการที่สามารถหักเพิ่มได้
ภาษีที่ต้องจ่าย = กำไรสุทธิทางภาษี × อัตราภาษี (20% หรือ 15%)
ภาษีสุทธิ = ภาษีที่ต้องจ่าย - ภาษีหักณ ที่จ่าย - ภาษีจ่ายล่วงหน้า
🚫 รายการที่ไม่สามารถหักได้ (Non-deductible)
มีค่าใช้จ่ายบางประเภทที่แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายจริงในทางบัญชี แต่กฎหมายภาษีไม่อนุญาตให้หักได้:
- ค่าปรับและค่าเบี้ยปรับ: จากการผิดกฎหมายหรือข้อบังคับ
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล: ที่จ่ายในปีปัจจุบัน
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: ของเจ้าของหรือผู้ถือหุ้น
- ค่าเสื่อมราคาเกิน: อัตราที่กฎหมายกำหนด
- หนี้สูญ: ที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
- ค่าใช้จ่าย: ที่ไม่มีเอกสารประกอบที่ถูกต้อง
- เงินบริจาค: ที่เกินอัตราที่กำหนด (2% ของกำไรสุทธิ)
✅ รายการที่สามารถหักเพิ่มได้ (Super deduction)
รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในบางกิจกรรม โดยอนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายเกินจากที่จ่ายจริง:
- ค่าวิจัยและพัฒนา: หักได้ 200% ของค่าใช้จ่ายจริง
- ค่าฝึกอบรมพนักงาน: หักได้ 200% (เงื่อนไขตามที่กำหนด)
- ค่าจ้างแรงงานคนพิการ: หักได้ 3 เท่าของค่าจ้างจริง
- ค่าใช้จ่ายในการประหยัดพลังงาน: หักได้เพิ่มตามที่กำหนด
🧮 ต้องการให้ MoAccount ช่วยคำนวณภาษี?
การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลมีความซับซ้อน ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมช่วยให้การคำนวณถูกต้องและประหยัดภาษีได้มากที่สุด
ขอคำนวณภาษี2.3 ขั้นตอนการยื่นแบบแสดงรายการ
การยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญในกระบวนการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางภาษี ต้องดำเนินการให้ถูกต้องและทันเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือเสียดอกเบี้ย
📅 กำหนดเวลาการยื่นในปี 2025
สำหรับปีภาษี 2025 บริษัทต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภงด.50) ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี:
- บริษัทที่ใช้ปีปฏิทิน: ยื่นภายใน 31 พฤษภาคม 2025
- บริษัทที่ใช้ปีการเงิน: ยื่นภายใน 150 วันหลังสิ้นสุดปีการเงิน
- บริษัทที่เลิกกิจการ: ยื่นภายใน 60 วันนับจากวันที่เลิกกิจการ
📋 เอกสารที่ต้องเตรียม
- แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภงด.50): กรอกข้อมูลครบถ้วนและถูกต้อง
- งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบ: สำหรับบริษัทที่กฎหมายกำหนด
- รายละเอียดการคำนวณภาษี: แสดงขั้นตอนการคำนวณอย่างชัดเจน
- หลักฐานการจ่ายภาษีหักณ ที่จ่าย: ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
- เอกสารประกอบอื่นๆ: ตามที่กรมสรรพากรกำหนด
💰 วิธีการชำระภาษี
หากมีภาษีที่ต้องจ่าย บริษัทสามารถชำระได้หลายช่องทาง:
- ธนาคารที่มีข้อตกลง: กับกรมสรรพากร
- ระบบ e-Payment: ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
- เช็คธนาคาร: สั่งจ่าย "กรมสรรพากร"
- โอนเงิน: เข้าบัญชีที่กรมสรรพากรกำหนด
⚠️ ผลกระทบจากการยื่นล่าช้า
- ค่าปรับ: 200% ของจำนวนภาษีที่ต้องจ่าย (แต่ไม่น้อยกว่า 1,000 บาท)
- ดอกเบี้ย: 1.5% ต่อเดือนหรือเศษของเดือน
- การดำเนินคดี: ตามกฎหมายในกรณีที่มีเจตนาหลบเลี่ยง
- การระงับใบอนุญาต: สำหรับธุรกิจบางประเภท
2.4 การวางแผนภาษีและการประหยัดภาษี
การเข้าใจว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ อะไร ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจ่ายภาษีสูงเสมอไป การวางแผนภาษีที่ถูกต้องสามารถช่วยประหยัดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ
🎯 กลยุทธ์การประหยัดภาษีที่ถูกกฎหมาย
- การวางแผนการลงทุน: เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- การจัดโครงสร้างค่าใช้จ่าย: เพื่อให้ได้รับการหักลดหย่อนสูงสุด
- การเลือกเวลาในการรับรู้รายได้: และการจ่ายค่าใช้จ่าย
- การใช้ประโยชน์จากการลดหย่อน: ที่กฎหมายให้ไว้
- การวางแผนระยะยาว: เพื่อใช้ประโยชน์จากผลขาดทุนยกไป
💡 เคล็ดลับการประหยัดภาษีจาก MoAccount
- ลงทุนในเครื่องจักรใหม่: ใช้สิทธิเสื่อมราคาเร่ง 40% ในปีแรก
- จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: หักได้ 15% ของเงินเดือนพนักงาน
- ลงทุนในการวิจัยและพัฒนา: หักได้ 200% ของค่าใช้จ่ายจริง
- จ้างแรงงานคนพิการ: หักได้ 3 เท่าของค่าจ้าง
- บริจาคเพื่อการกุศล: หักได้ไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิ
❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากรายได้หรือกำไรสุทธิของนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สหกรณ์ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 65 ของประมวลรัษฎากร
ความแตกต่างหลัก:
- อัตราภาษี: นิติบุคคล 20% (หรือ 15% สำหรับบริษัทใหม่), บุคคลธรรมดา 5-35%
- การคำนวณ: นิติบุคคลคิดจากกำไรสุทธิ, บุคคลธรรมดาคิดจากรายได้สุทธิ
- การยื่นแบบ: นิติบุคคลใช้ ภงด.50, บุคคลธรรมดาใช้ ภงด.90/91
- เงื่อนไขการหัก: นิติบุคคลมีข้อจำกัดการหักค่าใช้จ่ายมากกว่า
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่:
- บริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัดทุกประเภท
- ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนมหาชน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล)
- สหกรณ์ทุกประเภท
- มูลนิธิและสมาคมที่มีรายได้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์
- นิติบุคคลต่างชาติที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
ไม่รวม: ห้างหุ้นส่วนสามัญธรรมดา และบุคคลธรรมดา
ใช่ บริษัทที่ขาดทุนยังคงต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภงด.50) ตามกำหนดเวลา
เหตุผลสำคัญ:
- เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ
- เพื่อนำผลขาดทุนไปหักกับกำไรในปีต่อไป (carry forward)
- เพื่อความโปร่งใสและการติดตามของหน่วยงานราชการ
- เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือดำเนินคดี
ประโยชน์: ผลขาดทุนสามารถนำไปหักกับกำไรในอนาคตได้ 5 ปี
ข้อดีของการใช้บริการ MoAccount:
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนประจำ สวัสดิการ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ผู้เชี่ยวชาญหลายคน: ทีม CPA มืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
- ระบบงานมาตรฐาน: ได้รับการรับรอง ISO 27001 ด้านความปลอดภัยข้อมูล
- ความต่อเนื่อง: ไม่ต้องกังวลเรื่องการลาหรือลาออกของพนักงาน
- เทคโนโลยีทันสมัย: ระบบบัญชีออนไลน์ที่เข้าถึงได้ 24/7
- ความรับผิดชอบ: มีการประกันความผิดพลาดและรับผิดชอบต่อความเสียหาย
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ SME ที่ต้องการควบคุมต้นทุนและได้รับบริการมืออาชีพ
บริการหลักของ MoAccount:
- รับทำบัญชีรายเดือนและยื่นภาษีทุกประเภท
- ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ยื่นแบบ ภงด.1, ภงด.3, ภงด.53, ภงด.54
- จดทะเบียนบริษัทและเปลี่ยนแปลงทะเบียน
- ตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
- คำปรึกษาด้านบัญชี ภาษี และการวางแผนธุรกิจ
แพ็กเกจราคา (ปี 2025):
- แพ็กเกจ SME: 3,500-5,500 บาท/เดือน (รายการ 1-100 รายการ)
- แพ็กเกจ Corporate: 5,500-8,500 บาท/เดือน (รายการ 101-300 รายการ)
- แพ็กเกจ Enterprise: ราคาตามการเจรจา (รายการ 300+ รายการ)
โปรโมชั่นพิเศษ 2025: ลูกค้าใหม่รับส่วนลด 50% เดือนแรก + คำปรึกษาฟรีตลอดปีแรก
🚀 พร้อมเริ่มต้นกับ MoAccount แล้วหรือยัง?
ให้เราช่วยดูแลเรื่องบัญชีและภาษี เพื่อให้คุณมีเวลาโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจของคุณ